วันพฤหัสบดีที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

วิธีปอกแอปเปิ้ลไม่ให้ดำ


สำหรับคนที่ปอกแอปเปิ้ลและวเบื่อกับสีที่ดำ ไม่สวย ไม่น่ากิน เหมือนตอนปอกใหม่ๆ

วิธีแรก

  • ให้ปอกแอ๊ปเปิ้ล แช่น้ำเกลือ เกลือ 1 ช้อนชา ในน้ำ 1 ชาม
วิธีที่ 2
  • ปอกแอ๊ปเปิ้ล แช่น้ำ มะนาว ผสมน้ำสะอาด  น้ำมะนาว 1 ช้อนชา ในน้ำ 1 ชาม
นำแอ๊ปเปิ้ลวิธีใดวิธีหนึ่ง ใน 2 วิธี ลงไปผ่านน้ำสักครู่ สะเด็ดน้ำให้แห้ง นำไปใส่กล่อง เก็บใส่ตู้เย็น

!ตำแหน่งสิวบนใบหน้า บอกอะไร


ถ้าคุณเป็นสิวที่
1.หน้าผากด้านซ้ายและขวา  เกี่ยวข้องกับระบบย่อยอาหาร กระเพาะปัสสาวะ และต่อมหมวกไต
สาเหตุ มีความเครียดสูง ล้างหน้าไม่สะอาด ทารองพื้นหรือแต่งคิ้วมากไป 

2. บริเวณหว่างคิ้ว อาจมีปัญหาในการย่อยแลคโทส ( ดื่มนมวัวไม่ได้ )
สาเหตุุ เพราะกินอาหารรสจัด หรือกินอาหารดึกเกินไป 

3.บริเวณใบหูทั้ง 2 ข้าง เกี่ยวข้องกับการทำงานของไต 
สาเหตุ ล้างแชมพูหรือสบู่ออกไม่หมด ใช้โทรศัพท์มือถือมากเกินไป ดื่มกาแฟ แอลกอฮอล์ หรือกินเนื้อสัตว์มากเกินไป หรือหากมีปัญหาสิวอุดตันช่วงใบหู อาจแสดงว่าฟันกรามมีปัญหา หรือว่าเพิ่งผ่าตัดฟันมา หรืออาจเกิดจากการมีรอบเดือน 

4.บริเวณแก้มทั้ง 2 ด้าน แก้มส่วนบน เกี่ยวข้องกับไซนัสและปอด แก้มส่วนล่าง เกี่ยวข้องกับเหงือกและฟัน
สาเหตุ  สูบบุหรี่จัด หรือแพ้ควันบุหรี่   ภูมิแพ้ เป็นหวัดเรื้อรังหรืออาจใช้บลัชออนและรองพื้นไม่เหมาะสม แต่ถ้าเป็นริ้วรอยลึกบริเวณโหนกแก้มอาจบ่งบอกถึงปัญหาเรื่องปอดหรือการหายใจ ถ้ามีสิวแบบเป็นๆหายๆที่แก้มด้านล่างอาจมีปัญหาเรื่องเหงือกและฟัน หรือโทรศัพท์มือถือไม่สะอาด

5.บริเวณรอบดวงตาทั้ง 2 ข้าง เกี่ยวข้องกับการทำงานของไต โรคภูมิแพ้
สาเหตุเครื่องสำอางที่ใช้อาจไม่เหมาะกับสภาพผิวหรือใส่แว่นตาที่เสียดสีมากรอยคล้ำอาจเกิดจากการมีสารพิษตกค้างในร่างกายมาก หรือพักผ่อนน้อย เปลือกตาหากมีการระคายเคืองอาจมาจากการเป็นภูมิแพ้หรือขาดสารอาหาร 

6. บริเวณจมูกและเหนือริมฝีปาก เกี่ยวกับการทำงานของหัวใจและระบบสืบพันธุ์ หากมีผิวสีแดงเข้มที่จมูก
สาเหตุ อาจบ่งบอกถึงโรคความดันโลหิตสูง การอุดตันหรือสีผิวไม่สม่ำเสมอ บอกถึงผลกระทบจากฮอร์โมนเช่น กำลังมีประจำเดือน วัยทอง การใช้ยาคุมกำเนิด 
7.บริเวณใต้ริมฝีปากด้านซ้ายและขวา เกี่ยวข้องกกับการทำงานของรังไข่
สาเหตุ อาจทำความสะอาดไม่ดีพอ หรือมาจากขาดความสมดุลทางฮอร์โมน  

8.บริเวณปลายคาง เกี่ยวข้องกับกระเพาะอาหารและลำไส้เล็ก 
สาเหตุ อาจกินอาหารรสจัดเกินไปจนลำไส้เป็นแผล หรือมีปัญหาในการดูดซึม

รู้แล้วก็ดูแลตัวเองด้วยนะ  สิวจะได้ไม่มากวนใจอีก



ขอบคุณภาพและข้อมูลจากLiving in shape

วันพุธที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

เฟสบุ้คฟีเวอร์


เฟสบุ้คฟีเวอร์ ไทยรั้งรองแชมป์ อัตราสมาชิกโตมากที่สุดในโลก

สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน ข้อมูลจากนิค เบอร์เชอร์ บล็อกเกอร์และผู้สนใจศึกษาปรากฏการณ์เกี่ยวกับเว็บไซต์เฟซบุ้้คชาวอังกฤษที่ทำการจัดอันดับ 30 ประเทศ ที่มีผู้ใช้บริการเว็บไซต์เฟซบุ้คมากที่สุดในโลก โดยเผยแพร่เป็นบทความในเว็บไซต์ asiancorrespondent.com ซึ่งจากผลการศึกษาทราบว่า
สมาชิกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะประเทศไทย มีอัตราการสมัครเป็นสมาชิกเฟซบุ้คอย่างรวดเร็ว และเป็นจำนวนมาก โตขึ้นสูงทะลุ 240 % ในปี 2553 ที่ผ่านมา ซึ่งเมื่อดูสถิติย้อนไปช่วง 2 ปี ก็จะพบว่า เพิ่มสูงขึ้นเกือบ 4,000%  มีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็ว รองจาประเทศบราซิลเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม สมาชิกประเทศเพื่อนบ้านก็มีการสมัครเป็นสมาชิกเฟซบุ้คเพิ่มขึ้นกว่า 100% เช่นกัน อย่างประเทศอินเดีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย บ่งชี้ว่าฐานสมาชิกในเอเชียมีอัตราการแพร่กระจายและการเข้าถึงอินเทอร์ที่เติบโตต่อเนื่อง คาดว่าการบริการด้านโทรศัพท์มือถือ ก็จะเติบโตในพื้นที่ประเทศดังกล่าวเพิ่มสูงขึ้นเช่นเดียวกัน

Mthai News

5 อันดับ เพชรที่ใหญ่ที่สุดในโลก

อันดับ 5 -- TheSpirit of de Grisogono น้ำหนักเพชร 312.24 กะรัต   (น้ำหนักก่อนเจีย587กะรัต) ถือว่าเป็นเพชรสีดำที่ใหญ่ที่สุดในโลก  (ใหญ่เป็นอันดับ 5ของบรรดาเพชรด้วยกัน) ประดับด้วยทองคำขาวและเพชรสีขาวน้ำหนักรวมถึง 36.69กะรัตค่ะถูกพบเป็นเวลาหลายสิบปีมาแล้วที่ตอนกลางทางตะวันตกของแอฟริกา ก่อนที่จะนำเข้ามาที่สวิตเซอร์แลนด์


อันดับ 4 -- TheCullinan II เพชรเม็ดโตขนาด 317.40 กะรัต ซึ่งประดับอยู่บนมงกุฏ theImperial State Crown of Great Britainเพชรนี้ถูกแบ่งออกมาจากเพชรก้อนเดิมน้ำหนัก 3106 กะรัต หรือน้ำหนัก 1 1/3ปอนด์ (O_o ใหญ่โตอะไรจะปานนี้โฮะๆๆ) ชื่อของเพชรถูกตั้งให้เป็นเกียรติแก่ Sir Thomas Cullinanผู้บุกเบิกเหมืองที่ค้นพบเพชรนี้


อันดับ 3 --The Incomparable น้ำหนัก 407.48กะรัต เพชรก่อนเจียหนัก 890 กะรัตค่ะถูกพบที่เมือง Mbuji Mayi สาธารณรัฐคองโกในปี 1980เพชรที่บริสุทธิ์และไม่มีตำหนิเลย วัดได้ 53.90 ? 35.19 ? 28.18 mm.

อันดับ2 -- TheCullinan I - aka the Star of Africa เพชรทรงลูกแพร์น้ำหนัก 530.20 กะรัต(53x44x29 mm.) ได้ชื่อว่าเป็น the Star of Africa  ถูกเรียกว่า CullinanI เพราะตัดแบ่งมาจากก้อน 3106 กะรัต (ก้อนเดียวกับที่ตัดแบ่งเพชรอันดับที่4 ของโลก) เพชรนี้ถูกนำมาประดับมงกุฏพระราชาเอ็ดเวิร์ดปัจจุบันถูกนำมาจัดแสดงไว้ที่ the tower of Londonมูลค่าของเพชรโดยประมาณอยู่ที่ 400 ล้านดอลลาร์


อันดับ 1 -- TheGolden Jubilee เพชรสีทอง O_o น้ำหนัก 545.67 กะรัต เป็นเพชรน้ำงามที่ใหญ่ที่สุดในโลก ถูกพบที่เหมืองพรีเมียร์ทางแอฟริกาตอนใต้ปี 1985เพชรนี้ถูกนำมาถวายให้กับกษัตริย์ของไทย (ในหลวงของเรานี่เอง ) ในปี 1997เนื่องในวโรกาสพระราชพิธีกาญจนาภิเษกครองราชย์ครบ 50 ปีชื่อของเพชรเรียกอีกชื่อหนึ่งได้ว่า  the Unnamed Brown ^^

เครดิตโดย winyoo

วันเสาร์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

บัตรประชาชนบอกเนื้อคู่..ผมลองแล้วก็80%ก็ถูกนะ

นำเลข3ตัวสุดท้ายจากบัตรประชนหรือดูในทะเบียนบ้านบ้านก็ได้นะ
นำเลข3ตัวนั้นมาบวกกัน เช่น 3 5877 850 89561 ก็เอาเลข5+6+1ได้12แล้วเอา1+2ได้ 3 บวกให้ได้เลขตัวเดียว แล้วไปดูเนื้อคู่ของคุณเลย

--------เลข1---------
เป็นคนรักศักดิ์ศรีมาก เด็ดเดี่ยว กล้าทำ กล้าแสดงออก เป็นผู้นำที่ดี เรื่องความรักค่อนข้างละเอียดอ่อน ถือความรักเป็นใหญ่ ลงทุนเพื่อความรักได้ทุกอย่าง

--------เลข2---------
เป็นคนไม่ชอบอยู่คนเดียว ค่อนข้างใจอ่อน มักมีคนมาหาเพื่อตักตวงผลประโยชน์ ความรักหวานแหววจนทำให้คนอื่นอิจฉา มีเสน่ห์ต่อเพื่อนตรงข้ามมาก เพื่อนฝูงรักใคร่

--------เลข3---------
เนื้อคู่ของคุณไม่ค่อยดีนัก เพราะมีปัญหาต่างๆเข้ามาในชีวิตอยู่เรื่อย เรื่องความรักต้องระวังมือที่สาม มักมีคนมาทำให้แตกแยก ควรใส่ใจคู่รักของคุณ แม้จะมีปัญหาเข้ามามาก แต่ก็จะผ่านไปได้เสมอ

---------เลข4--------
กล้าทำ กล้าแสดงออก กล้าตัดสินใจ เรื่องความรักจัดว่าดีทีเดียว มีเพศตรงข้ามให้ความสนใจเสมอ ความรักจะทำให้ชีวิตคุณดีขึ้น

----------เลข5-------
เป็นคนที่หยิ่งในตนเอง ไม่ชอบพึ่งพาใคร มักจะช่วยเหลือตัวเองมากกว่า ค่อนข้างเป็นคนคิดมาก เรื่องความรักเลขนี้มีเสน่ห์ต่อเพศตรงข้ามมาก แต่อย่าเลือกมากเกินไป ถ้ารอนานแล้วอาจจะรอเก้อ

----------เลข6-------
ไมีมีปัญหาอะไรมากนักเอาตัวรอดได้ตลอดเวลา พยายามแต่งตัวดีๆเข้าไว้จะดึงดูดสิ่งดีๆเข้ามาในชีวิตคุณ เรื่องความรักไม่มีปัญหาอะไร ต้องเลือกคนที่ดีที่สุดให้ตัวเอง คนหมายเลขนี้ไม่ค่อยอยู่เป็นโสดนานนัก

----------เลข7-------
เป็นคนที่ชอบเดินทางอยู่เสมอ เรื่องชีวิตดี แต่ความรักทำให้ปวดหัวบ่อยๆ ไม่ค่อยลงรอยกับคู่นัก อยู่ติดกันแล้วจะมีปากเสียง พยายามอยู่ห่างๆกันบ้างก็ดี

----------เลข8-------
เป็นคนขยัน กล้าตัดสินใจ เปิดเผย และไขว่คว้าสิ่งดีๆ เรื่องความรักไม่มีปัญหา แต่บางที่สนุกจนลืมคนรัก ต้องให้เวลาคนรักบ้าง

----------เลข9-------
ไม่ว่าเค้าจะทำอะไรก็จะประสบความสำเร็จอยู่เสมอ ไม่ต้องพึ่งคนอื่นมากนัก เรื่องความรักต้องระวังหน่อย เพราะจะทำให้ปวดหัว มีมือที่สาม มาให้ยุ่งยาก

ตรงกันบ้างไหมหนอ?

เครดิตโดย winyoo

สัมผัสที่ 6 ประจำวันเกิด


สงสัย ไหมว่าทำไมบางคนถึงเห็นผี และเห็นบ่อยซะด้วย แต่บางคนก็ไม่เคยแม้แต่จะเจอ ลบหลู่ขนาดไหนก็ไม่เจอ ลองอ่าน นี่แล้วอาจจะเข้าใจมากขึ้น เหอะๆๆๆๆๆ

เกิดวันอาทิตย์
ช่วงไหนที่คุณเจ็บป่วย ไม่สบาย หรือไม่ก็อ่อนแอทางจิตใจ ให้หลีกเลี่ยงที่จะใกล้ชิดกับผู้หญิงที่กำลังตั้งท้อง เพราะพลังอะไรบางอย่างที่ลึกลับ อาจจะทำให้คุณเห็นผี หรือ วิญญาณ ได้

 เกิดวันจันทร์
สำหรับคุณแล้ว จะส่องกระจกน่ะส่องได้ แต่อย่าส่องหลังเวลาเที่ยงคืนถึงเช้า โดยเฉพาะในกระจกร้าว และถ้าได้ยินเสียงอะไรแปลกๆ หรือเสียงเรียกเวลาค่ำคืน อย่าพูดทัก หรือขานตอบ เพราะนั่นอาจจะเป็นเสียงที่ทวงถามวิญญาณของคุณก็ได้

เกิดวันอังคาร
คนเกิดวันอังคารลำบากกว่าคนเกิดวันอื่นเสียแล้ว เพราะคุณไม่ควรเข้าห้องน้ำนอกบ้าน ถ้าไม่มีธุระ คุณควรจะอยู่ให้ห่างจากห้องน้ำที่ไม่น่าไว้ใจเอาไว้ เพราะอาจมีบางอย่างแอบติดตามคุณออกมา หรือปรากฏให้คุณเห็น

 เกิดวันพุธ
คุณไม่ควรไปงานศพ เพราะอาจจะมีวิญญาณติดตามตัวคุณกลับออกมา แต่ถ้าหากว่าเป็นงานที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ หลังจากที่กลับมาจากงานศพแล้ว ให้รีบอาบน้ำก่อนเที่ยงคืน และถ้าจะให้ดีน้ำที่อาบควรเป็นน้ำว่าน

เกิดวันพฤหัส
ในยามวิกาล มืดๆ อย่ามองไปที่หัวบันได เพราะคุณอาจจะมีอะไรบางอย่างปรากฏให้คุณเห็นที่ตรงนั้น หากว่าได้ยินเสียงแป ลกๆ คล้ายๆ กับเรียกชื่อคุณ อย่าขานตอบ ให้ก้าวเท้าถอยหลัง 1 ก้าว แล้วเสียงนั้นจะหายไป

เกิดวันศุกร์
เคยได้ยินหรือเปล่าว่าธาตุน้ำ อาจจะเป็นเหมือนประตูเชื่อมระหว่างโลกมนุษย์ กับ โลกวิญญาณ ดังนั้น คนที่เกิดวันศุกร์อย่างคุณควรหลีกเลี่ยงการเดินทางทางน้ำ

เกิดวันเสาร์
ศาลพระภูมิ คือ สิ่งต้องห้ามสำหรับคนเกิ ดวันเสาร์ ไหว้ เคารพ ได้ แต่อย่ามองจ้อง หากได้ยินเสียงหมาเห่า หอน เกรียวกราว ใกล้ๆ ตัว นั่นอาจแปลได้ว่าคุณกำลังโดนติดตามโดยภูตผี วิญญาณ


เครดิตโดย winyoo

วันพฤหัสบดีที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

เผยรายได้หนังไทย ไตรมาสแรกปี 2555


สรุปผลรายได้หนังไทย ไตรมาสแรก ปี 2555 เผยทำเงินสูงสุด 150 ล้าน ต่ำสุดแค่ 8 หมื่น


ภาพยนตร์เรื่อง : ส.ค.ส. สวีทตี้ 
วันที่เข้าฉาย : 29 ธันวาคม 2554  
รายได้ : 83 ล้านบาท


ภาพยนตร์เรื่อง :  มึง-กู เพื่อนกันจนวันตาย 
วันที่เข้าฉาย :   12 มกราคม 2555 
รายได้ : 6 ล้านบาท


ภาพยนตร์เรื่อง :  รักเว้ยเฮ้ย 
วันที่เข้าฉาย : 12 มกราคม 2555 
รายได้ : 13 ล้านบาท


ภาพยนตร์เรื่อง : ATM เออรัก เออเร่อ 
วันที่เข้าฉาย :   19 มกราคม 2555 
รายได้ : 150 ล้านบาท


ภาพยนตร์เรื่อง :  รักสุดท้ายป้ายหน้า 
วันที่เข้าฉาย : 26 มกราคม 2555 
รายได้ : 9 ล้านบาท


ภาพยนตร์เรื่อง : ปัญญาเรณู 2 
วันที่เข้าฉาย : 26 มกราคม 2555 
รายได้ : 19 ล้านบาท


ภาพยนตร์เรื่อง :  รัก (An Ordinary Love Story) 
วันที่เข้าฉาย : 2 กุมภาพันธ์ 2555
รายได้ : 5 แสนบาท


ภาพยนตร์เรื่อง : รักเลี้ยวเฟี้ยว (อ่ะ) 
วันที่เข้าฉาย : 2 กุมภาพันธ์ 2555
รายได้ : 8 หมื่นบาท


ภาพยนตร์เรื่อง : วาเลนไทน์ สวีทตี้ 
วันที่เข้าฉาย : 9 กุมภาพันธ์ 2555 
รายได้ : 59 ล้านบาท


ภาพยนตร์เรื่อง :  It gets better ไม่ได้ขอให้มารัก 
วันที่เข้าฉาย : 14 กุมภาพันธ์ 2555 
รายได้ : 6 ล้านบาท


ภาพยนตร์เรื่อง :  เดอะเมโลดี้ รักทำนองนี้ 
วันที่เข้าฉาย :   14 กุมภาพันธ์ 2555 
รายได้ : 6 ล้านบาท


ภาพยนตร์เรื่อง :  แก๊งค์ตบผี 
วันที่เข้าฉาย : 23 กุมภาพันธ์ 2555 
รายได้ : 2 ล้านบาท


ภาพยนตร์เรื่อง :  ตำนานรักแม่นาค 3D 
วันที่เข้าฉาย : 1 มีนาคม 2555 
รายได้ : 13 ล้านบาท


ภาพยนตร์เรื่อง :  รักสุดทีน 
วันที่เข้าฉาย : 1 มีนาคม 2555 
รายได้ : 14 ล้านบาท


ภาพยนตร์เรื่อง :  รักเอาอยู่ 
วันที่เข้าฉาย : 7 มีนาคม 2555 
รายได้ : 9 ล้านบาท


ภาพยนตร์เรื่อง :  407 เที่ยวบินผี 
วันที่เข้าฉาย : 22 มีนาคม 2555 
รายได้ 34 ล้านบาท


ทั้งนี้ มีหนังไทยเพียงไม่กี่เรื่องเท่านั้น ที่มีรายได้เกิน 10 ล้าน นั่นก็คือ ATM เออรัก..เออเร่อ, ส.ค.ส. สวีทตี้, วาเลนไทน์ สวีทตี้, รักสุดทีน, ปัญญาเรณู 2, 407 เที่ยวบินผี, ตำนานรักแม่นาค 3D และรักเว้ยเฮ้ย

          ส่วนหนังที่ดูเหมือนว่า เจ็บหนักที่สุด เนื่องจากขาดทุนย่อยยับก็น่าจะเป็นเรื่อง รักเลี้ยวเฟี้ยวว!! (อ่ะ) ที่มีพระเอก-นักร้อง จอนนี่-หลุยส์ แสดงนำ ทำได้รายได้เพียง  8 หมื่นบาทเท่านั้น


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

10ประเทศ ที่มีรถไฟความเร็วสูงสุด

1. Japan
Train:             JR-Maglev MLX01
Speed:            361 mph
Capacity:         Experimental
2. France
Train:            TGV V150
Speed:           357 mph
Capacity:        Experimental
3. China
Train:            CRH380AL
Speed:           302 mph
Capacity:        600 passengers
4. Germany
Train:           Transrapid TR-07
Speed:          270.3 mph
Capacity:       Experimental
5. Spain
Train:                 AVE Class 103
Speed:                251 mph
Capacity:            404 passengers
6. Italy
Train:             ETR 500 Frecciarossa
Top Speed:     225 mph
Capacity:        590 passengers
7. United Kingdom
Train:               Eurostar 3313/14
Top Speed:       208 mph
Capacity:          750 passengers
8. South Korea
Train:               KTX-I
Top Speed:       190 mph
Capacity:          965 passengers
9. Taiwan
Train:           THSR 700T
Top Speed:   186 mph
Capacity:      989 passengers
10. Russia                                
Train:           Siemens Velaro RUS
Top Speed:   175 mph
Capacity:      600 passengers
อยากรู้เป็นกิโลเมตรก็เอาไป X 1.68 = หน่วย กิโลเมตร
credit  :  http://thewondrous.com/worlds-top-10-countries-with-fastest-trains/

ที่มา : postjung

วันศุกร์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ข้อห้ามในการสร้างบ้านทรงไทย



ข้อห้าม...สำหรับการสร้างบ้านทรงไทย รวบรวมเป็นข้อห้ามการสร้างบ้านได้ดังนี้

บันไดห้ามใช้จำนวนขั้นคู่ (ต้องเป็นขั้นคี่นับเฉพาะขั้น ไม่นับพื้นหรือชานพัก) 
บันไดไม่ลงไปทางทิศตะวันตก
ไม่หันหัวนอนไปทางทิศตะวันตก 
ไม่ทำน้ำพุน้ำตกไหลเข้าตัวเรือน (ตึก)
ไม่ปลูกต้นหางนกยูง ต้นลั่นทม ต้นโศก ตรุษจีนฯ 
ไม่ทำทางเข้าลอดใต้ห้องน้ำส้วม 
ไม่ทำอาคารรูปตัว "ที" มีปีกเท่ากันสองข้างเรียก "แร้งกระพือปีก" ถือเป็นอัปมงคล 
ไม่ทำเรือนทะลุหน้าตลอดหลังถือว่าเป็น "เรือนอกแตก" เป็นอัปมงคล 
ไม่ทำภูเขาจำลองไว้ในบ้าน 
ห้ามใช้ไม้ตะเคียน ไม้มะค่าในการปลูกเรือน 
ห้ามใช้เสาตกน้ำมัน 
ห้ามทำทางเข้าออกคู่ไว้ตอนมุมของพื้นดินที่ทางสามแพร่งหรือสี่แยก 
ห้ามทำภาพยักษ์ไว้ในบ้าน 
ห้ามทำหนังใหญ่หรือหนังตะลุงไว้ในบ้าน 
ห้ามใช้ช่อฟ้า ใบระกา - เครื่องวัด - เครื่องหลวง หรือมีเครื่องประดับชั้นสูงในบ้าน 
ห้ามปลูกเรือนคร่อมตอ 
ห้ามตั้งศาลพระภูมิใต้เงาเรือน 
ไม่ปลูกต้นมะละกอใกล้ตัวเรือน 
ห้ามทำบันไดเวียนซ้ายขาขึ้น 
ไม่ปลูกบ้านใต้ต้นไม้ใหญ่ 
ห้ามมิให้มีสัตว์ตกตายในหลุมตอม่อ 
ห้ามใช้เสาไม้มีตาในระยะ "เป็ดไซ้ ไก่ตอด สลัก รอด หมู่สี" 
ห้ามวางรูปพื้นเรือนในอัตราส่วนที่ใกล้เคียงรูโลงศพ 
ห้ามทำเตียงนอนขาสิงห์ เครื่องใช้ขาสิงห์ (ซึ่งเทียมเจ้านาย) 
ห้ามนำศพออกประตูเรือน หรือลงบันไดบ้าน (ให้ออกทางด้านฝาหุ้มกลอง 
เพราะสะดวกในการเคลื่อนศพฝาหุ้มกลองถอดออกและประกอบใหม่ได้) 
ห้ามนำของวัดเข้าบ้านหรือมาประกอบเป็นส่วนของบ้าน 
ห้ามทำทางเข้าเวียนซ้ายของอาคาร ฯลฯ 



เครดิคโดย winyoo

ชื่อเต็ม ๆ กรุงเทพมหานคร พร้อมคำแปล



ชื่อเต็มของกรุงเทพฯ :-

กรุงเทพมหานคร     อมรรัตรโกสินทร์     มหินทรายุธยา     มหาดิลกภพ     นพรัตนราชธานีบูรีรมย์

อุดมราชนิเวศน์มหาสถาน     อมรพิมานอวตารสถิต     สักกะทัตติยวิษณุกรรมประสิทธิ์

คำแปลเป็น ภาษาไทย :-

กรุงเทพมหานคร อมรรัตรโกสินทร์ มหินทรายุธยา


แปลไทย : พระนครอันกว้างใหญ่ดุจเทพนคร เป็นที่สถิตของพระแก้วมรกต เป็นนครที่ไม่มีใครรบชนะได้

มหาดิลกภพ นพรัตนราชธานีบูรีรมย์

แปลไทย : มีความงามอันมั่นคงและเจริญยิ่ง เป็นเมืองหลวงที่บริบูรณ์ด้วยแก้วเก้าประการ น่ารื่นรมย์ยิ่ง

อุดมราชนิเวศน์มหาสถาน อมรพิมานอวตารสถิต

แปลไทย : มีพระราชนิเวศใหญ่โตมากมาย เป็นวิมานเทพที่ประทับของพระราชาผู้อวตารลงมา

สักกะทัตติยวิษณุกรรมประสิทธิ์

แปลไทย : ซึ่งท้าวสักกเทวราชพระราชทานให้พระวิษณุกรรมลงมาเนรมิตไว้


เครดิตโดย winyoo

ตราประจำพระมหากษัตริย์ไทยทั้ง ๙ รัชกาล

ตราราชวงศ์จักรี

ตราประจำรัชกาลที่ ๑
"มหาอุณาโลม" เป็นตรางา 
ลักษณะกลมรูปปทุมอุณาโลม มีอักขระ "อุ" อยู่ตรงกลาง 
("อุ" มีลักษณะ เป็นม้วนกลม คล้ายลักษณะความหมายของพระนามเดิมว่า "ด้วง") 
ตรามหาอุณาโลมนี้ หมายถึงตาที่สามของพระอิศวร ซึ่งถือเป็นปฐมฤกษ์ในการตั้งพระบรมราชจักรีวงศ์ ล้อมด้วยกลีบบัว ซึ่งเป็นพฤกษชาติที่เป็นสิริมงคล ทางพระพุทธศาสนา

ตราประจำรัชกาลที่ 
"ครุฑจับนาค" เป็นตรางา 
ลักษณะกลม รูปครุฑจับนาค เนื่องจากพระนามเดิมคือ "ฉิม" ซึ่งตามความหมายของวรรณคดีไทยเป็นที่อยู่ของพญาครุฑ

ตราประจำรัชกาลที่ "มหาปราสาท" เป็นตรางา 
ลักษณะกลม รูปปราสาท เนื่องจากพระนามเดิมคือ "ทับ" ซึ่งหมายถึงที่อยู่หรือเรือน จึงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระลัญจกรเป็นรูปปราสาท

ตราประจำรัชกาลที่ 
"พระมหาพิชัยมงกุฎ" เป็นตรางา ลักษณะกลมรี รูปพระมหามงกุฎ (ตามพระนามเดิมว่า เจ้าฟ้ามงกุฎ) อยู่ในเครื่องเบญจราชกกุธภัณฑ์ มีฉัตรปริวาร ๒ ข้าง มีพานทอง ๒ ชั้น วางพระแว่นสุริยกานต์ หรือ เพชรข้างหนึ่ง (พระแว่นสุริยกานต์ หรือ เพชร หมายถึง พระฉายา เมื่อทรงผนวชว่า วชิรญาณ) 
อีกข้างหนึ่ง วางสมุดตำรา (หมายถึง ทรงศึกษาวชาญในทางอักษรศาสตร์ และดาราศาสตร์)

ตราประจำรัชกาลที่ 
"พระจุลมงกุฎ หรือพระเกี้ยว" เป็นตรางา 
ลักษณะกลมรี กว้าง ๕.๕ ซ.ม. ยาว ๖.๘ ซ.ม. มีรูปพระเกี้ยวยอดมีรัศมีประดิษฐานบนพานทอง ๒ ชั้น (หมายถึงพระเกี้ยวเจ้าฟ้าในคราวโสกัณฑ์) เคียงด้วยฉัตรปริวาร ๒ ข้าง ที่ริมขอบทั้ง ๒ ข้าง มีพานทอง ๒ ชั้น วางพระแว่นสุริยกานต์ หรือเพชรข้างหนึ่ง 
อีกข้างหนึ่ง วางสมุดตำรา (เป็นการเจริญรอยจำลอง พระราชลัญจกร ของรัชกาลที่ ๔)

ตราประจำรัชกาลที่ 
"มหาวชิราวุธ" เป็นตรางา 
ลักษณะกลมรี กว้าง ๕.๕ ซ.ม. ยาว ๖.๘ ซ.ม. รูปวชิราวุธ มีรัศมีประดิษฐานบนพานทอง ๒ ชั้น ตั้งอยู่เหนือตั่ง มีฉัตรปริวาร ๒ ข้าง (รูปตรานี้ใช้ตามพระนามของพระองค์ คือ วชิราวุธ ซึ่งหมายความถึงศัตราวุธของพระอินทร์)
ตราพระราชลัญจกรนี้ สร้างขึ้นสำหรับใช้ประทับกำกับพระปรมาภิไธย ในต้นเอกสารสำคัญส่วนพระองค์ ไม่เกี่ยวกับราชการแผ่นดิน

ตราประจำรัชกาลที่ 
"พระไตรศร" เป็นตรางา ลักษณะกลมรี กว้าง ๕.๔ ซม. ยาว ๖.๗ ซม. รูปราวพาดพระแสงศร ๓ องค์ 
คือ พระแสงศรพรหมศาสตร์, พระแสงศรอัคนีวาต และพระแสงศรประลัยวาต 
(เป็นศรของพระพรหม, พระนารายณ์ และของพระอิศวร ซึ่งใช้ตามความหมายของพระนามเดิมคือ "ประชาธิปกศักดิเดชน์" คำว่า "เดชน์" แปลว่า "ลูกศร") เบื้องบนมีรูปพระแสงจักรและพระแสงตรีศูร อยู่ภายใต้พระมหาพิชัยมงกุฎ มีบังแทรกตั้งอยู่ ๒ ข้าง มีลายกนกแทรกอยู่ระหว่างพื้น
ตราพระราชลัญจกรนี้ สร้างขึ้นสำหรับใช้ประทับกำกับพระปรมาภิไธย ในต้นเอกสารสำคัญส่วน

ตราประจำรัชกาลที่ 
"รูปพระโพธิสัตว์" เป็นตรางา 
ลักษณะกลมศูนย์กลางกว้าง ๗ ซ.ม. รูปพระโพธิสัตว์ประทับบน 
บัลลังก์ดอกบัวห้อยพระบาทขวาเหยียบบัวบาน หมายถึงแผ่นดิน พระหัตถ์ซ้ายถือดอกบัวตูม มีเรือนแก้วด้านหลังแท่นรัศมี มีแท่น 
รองรับตั้งฉัตร บริวาร ๒ ข้าง (รูปพระโพธิสัตว์นี้เดิมเป็นตราประจำในพระราชวังดุสิต) เป็นสัญลักษณ์ปรมาภิไธยว่า อานันทมหิดล แปลความหมายว่า
 เป็นที่ยินดีของแผ่นดิน
ตราพระราชลัญจกรนี้ สร้างขึ้นสำหรับใช้ประทับกำกับพระปรมาภิไธย ในต้นเอกสารสำคัญส่วนพระองค์ ไม่เกี่ยวกับราชการแผ่นดิน

ตราประจำรัชกาลที่ 
"พระแท่นอัฏทิศ อุทุมพรราชอาสน์" เป็นตรางา ลักษณะรูปไข่ กว้าง ๕ ซ.ม. สูง ๖.๗ ซ.ม. 
รูปพระที่นั่งอัฎทิศ ประกอบด้วยวงจักร กลางวงจักรมีอักขระ "อุ" รอบๆ มีรัศมี 
(วันบรมราชาภิเษกได้เสด็จได้เสด็จประทับที่นั่งอัฎทิศ) 
แปลความหมายว่า ทรงมีพระบรมเดชานุภาพในแผ่นดิน
ตราพระราชลัญจกรนี้ สร้างขึ้นเมื่อวันบรมราชาภิเษก สำหรับใช้ประทับกำกับพระปรมาภิไธย ในต้นเอกสารสำคัญส่วนพระองค์ ไม่เกี่ยวกับราชการแผ่นดิน
ที่มา : dek-d

สุริยุปราคาวงแหวน 21 พฤษภาคม 2555


ไทยเห็นบางส่วนครับ
ที่มา http://thaiastro.nectec.or.th/skyevnt/eclipses/2012eclipses.html
        http://www.pantip.com