5 วิธีเลือกที่นั่งต้านกระดูกเสื่อม

เมื่อมีอายุมากขึ้นทุกคนอาจเป็นโรคกระดูกเสื่อมได้ตามธรรมชาติ แต่สำหรับผู้ที่ต้องนั่งอยู่บนเก้าอี้หลังโต๊ะทำงาน หรือนั่งอยู่บนเก้าอี้หน้าจอคอมพิวเตอร์ตลอดทั้งวัน โรคนี้อาจมาเยือนได้เร็วกว่าบุคคลอื่น ซึ่งวิธีการป้องกันหรือชะลอภาวะกระดูกเสื่อมแบบง่ายๆ นั้น ทำได้โดยการเลือกที่นั่งให้เหมาะสม 5 วิธี ดังนี้

1 ความสูงของเก้าอี้ ต้องเท่ากับช่วงยาวของขาท่อนล่าง (น่อง) ตั้งแต่ข้อพับหลังหัวเข่าลงไปถึงเท้า เพื่อจะได้วางเท้าราบพื้นพอดี

2 รูปร่างของเบาะนั่ง ต้องไม่บุ๋มเป็นแอ่ง มิเช่นนั้นจะทำให้กระดูเชิงกราน (ซึ่งเป็นฐานของกระดูกสันหลังทั้งหมด) บิดงอ

3 เบาะไม่ควรอยู่ลึกเกินไป และพนักพิงไม่ควรอยู่ไกลเกินไป หากพิงไม่ถึง และต้องเอนตัวไปด้านหลัง จะทำให้หลังงอ

4 ควรมีพนักพิง เพื่อช่วยดันหลังให้อยู่ในท่าตรงตามธรรมชาติ

5 ที่เท้าแขนอยู่ในระดับที่งอข้อศอกแล้ววางแขนได้พอดี เพราะนอกจากใช้พักแขน และข้อศอกแล้วยังใช้สำหรับดันเพื่อยืดตัวให้ตรงขึ้นได้เล็กน้อย

เพียงเท่านี้คงไม่ยากเกินไปที่จะใส่ใจกับสิ่งของที่เราต้องใช้บ่อยๆ ในชีวิตประจำวัน เพื่อสุขภาพที่ดีในระยะยาว

ที่มา : หนังสือ “เรียนรู้สู้กระดูกเสื่อม” 

ดื่มน้ำตอนไหน !! มีประโยชน์ที่สุด

ทราบหรือไม่ว่าการดื่มน้ำก็ต้องมีเวลาที่ดื่มแล้วให้ประโยชน์สูงสุดเหมือนกัน 
เวลาที่เหมาะที่สุดที่ควรดื่มน้ำคีอ 


- ตื่นนอนตอนเช้า 1 แก้ว (400 ซี.ซี.) เพราะเป็นช่วงที่มีความเข้มข้นของเลือดสูง เลือดจะมีลักษณะขาดน้ำ
- ตอนสาย ๆ 2 แก้ว (เวลาประมาณ 9 โมงถึง 10 โมงเช้า) ช่วงนี้เป็นช่วงที่มีของเสียเกิดขึ้น เพราะร่างกายได้ทำงานไประยะหนึ่งแล้ว ฉะนั้น จึงควรดื่มน้ำเพื่อมาชำระของเสียเหล่านั้นออกไป
- ตอนบ่าย ๆ 3 แก้ว (เวลาประมาณบ่ายโมงถึงบ่ายสอง)
- ตอนเย็น 3 แก้ว (เวลาประมาณ 1 ทุ่มถึง 2 ทุ่ม)
- ก่อนนอนให้ดื่มน้ำอีก 1 แก้ว เพื่อให้น้ำที่ดื่มไหลเวียนชะล้างสิ่งตกค้างในลำไส้และกระเพาะอาหาร ยิ่งถ้าเป็นน้ำอุ่นด้วยแล้วจะยิ่งช่วยให้หลับสบายยิ่งขึ้น
การดื่มน้ำเป็นสิ่งที่ดีต่อร่างกาย และก็ควรดื่มให้ได้อย่างน้อย วันละ 8-10 แก้ว เพื่อสุขภาพที่ดี

เคล็ดลับ
* * น้ำที่ดีต่อสุขภาพ เป็นน้ำทีมีอุณหภูมิ เท่ากับอุณหภูมิห้องในขณะนั้น 

* * สำหรับน้ำแก้วแรก ถ้าเป็นน้ำอุ่นจะช่วยล้างสิ่งตกค้างในลำไส้และกระเพาะอาหาร

* * ก่อนนอน น้ำอุ่นจะช่วยให้หลับสบาย

น้ำดื่มที่ดีควรจะมีอุณหภูมิปกติ คือไม่เย็นและไม่ร้อนเกินไปนะครับ

ไก่กับไข่...อะไรเกิดก่อนกัน

Dr. Colin Freeman จาก Sheffield University ได้ทำการวิจัยอย่างหนักกับนักศึกษา Warwick University เพื่อหาคำตอบผลปรากฎว่า
"นานแล้วที่เราคาดว่าไข่น่าจะมาก่อนไก่แต่บัดนี้เราได้พิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์อล้วว่าไก่นั้นมาก่อน" เขากล่าว
ข้อพิสูจน์นี้พิสูจน์ได้จากสารโปรตีนชนิดหนึ่งนั้นคือ Ovocledidin-17 (OC-17) ที่พบได้ในรังไขของไก่ ซึ่งเป็นสารสำคัญที่ใช้ในการกำหนดรูปแบบการผลิตเปลือกของไข่นั้นเอง
OC-17จะเปลี่ยนแคลเซียมคาร์บอนเน็ตให้เป็นแคลไซต์คริสตอลซึ่งจะเปลี่ยนเป็น ไข่ในภายหลัง ซึ่งหากไม่มี OC-17 ก็จะไม่มีไข่ ซึ่งOC-17 จะมาจากรังไข่ของไก่เท่านั้น แปลว่า ไก่ต้องเกิดก่อนไข่

ใครเก่ง มาลองทำโจทย์ของ ไอสไตน์ ดู

เป็นโจทย์ปัญหาของ อัลเบิร์ท ไอสไตน์
>>นักวิทยาศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ของโลกเรา...และว่ากันว่ามนุษย์ทั้งโลก 98%
>>ไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้
>>แบบนี้มันท้าทายว่าเราจะเป็น 2
>>เปอร์เซนต์ที่ตอบได้หรือเปล่า...มาลองทำดีกว่า

>>เรื่องมีอยู่ว่ามีบ้านอยู่ 5 หลัง ในแต่ละหลังมีสีต่างกัน
>>แต่ละบ้านมีคนอยู่ 1 คน ต่างกัน 5 ชนชาติ ทุกคนจะดื่มน้ำที่แตกต่างกัน
>>สูบบุหรี่ยี่ห้อแตกต่างกัน และเลี้ยง*ต่างชนิดกัน ดังนี้

>>1. คนที่เป็นชาวอังกฤษอยู่บ้านสีแดง
>>2. คนที่เป็นชาวสวีเดนเลี้ยงหมา
>>3. คนที่เป็นชาวเดนมาร์กดื่มชา
>>4. บ้านสีเขียวอยู่ทางซ้ายของบ้านสีขาว
>>5. เจ้าของบ้านสีเขียวดื่มกาแฟ
>>6. คนที่สูบบุหรี่ยี่ห้อ Camel เป็นคนเลี้ยงนก
>>7. เจ้าของบ้านสีเหลืองสูบบุหรี่ยี่ห้อ Dunhill
>>8. คนที่อยู่บ้านหลังกลางดื่มนม
>>9. คนที่เป็นชาวนอร์เวย์อยู่บ้านหลังแรก
>>10. คนที่สูบบุหรี่ยี่ห้อ Marlboro อยู่ติดกับคนเลี้ยงแมว
>>11. คนที่เลี้ยงหนูแฮมเตอร์อยู่ติดกับของที่สูบบุหรี่ยี่ห้อ Dunhill
>>12. คนที่สูบบุหรี่ยี่ห้อ Kent ดื่มเบียร์
>>13. คนที่เป็นชาวเยอรมัน สูบบุหรี่ยี่ห้อ Vogue
>>14. คนที่เป็นชาวนอร์เวย์อยู่ติดกับบ้านสีฟ้า
>>15. คนที่สูบบุหรี่ยี่ห้อ Marlboro เป็นเพื่อนกับคนดื่มน้ำส้ม

>>คำถาม....... ใครเป็นคนเลี้ยงปลา?








สรุปคงไม่มีใครได้ลองทำเลยเนี้ย

เฉลยเลี้ยงปลาเป็นเยอรมัน เพราะโจทย์บอกอย่างชัดเจนว่า

แต่ละบ้านมีคนอยู่ 1 คน ต่างกัน 5 ชนชาติ ทุกคนจะดื่มน้ำที่แตกต่างกัน
สูบบุหรี่ยี่ห้อแตกต่างกัน และเลี้ยง ส.อัตว์ ต่างชนิดกัน ดังนี้

คำว่าต่างชนิดกันเป็นคำบอกว่า ทุกคนเลี้ยงแน่ๆ แต่ไม่ซ้ำ หรือเลี้ยงไม่เหมือนกัน เป็นที่มาว่าทำไมต้องตอบเยอรมัน
เพราะแกะออกมาแล้วเยอรมันยังไม่ได้เลี้ยงอะไร โจทย์บอกมันต้องเลี้ยงอ่ะ

(อันนี้ไม่รุจะอธิบายทำไมมันเป็นcommonsenseครับ เช่น
มีคนสามคน มีบ้านสามหลัง ทุกคนอยู่บ้านคนละหลัง มีข้อมูลดังนี้
1.คนที่หนึ่งยุหลังที่สอง
2.คนที่สองยุหลังที่สาม
คำถามคือคนที่สามอยู่บ้านหลังไหน
ตอบได้ใช่ไหมครับว่าหลังแรก เอ๊ะมันได้บอกเลยหนิ คนที่สามมาไง
โจทย์ตัวนี้กะโจทย์ที่ให้มันโจทย์ชนิดเดียวกันแต่ต่างตรงที่ว่า โจทย์ที่ให้มามันซับซ้อนมากกว่านั้น แค่นั้นเอง)

ส่วนเรื่องซ้ายขวาของบ้านเขียวและขาวนั้น ซ้ายมือเราครับ commonsense เช่นกัน
อันนี้ยิ่งอธิบายยากไปใหญ่ ไม่ว่ายกตัวอย่างใดๆมาจะเต็มไปด้วยคำค้าน ดังนั้นจะไม่ยกตัวอย่างนะครับ

ที่บอกว่าท่านLIVERยังไม่ได้ลองทำจริงๆเพราะ

โจทย์ลักษณะนี้ความสำคัญของข้อมูลที่ให้มามันแทบจะฟิกไว้เลยว่าต้องคิดตัว ใหนก่อน พูดง่ายๆว่าถ้าไปคิดอันท้ายๆก่อนไม่ออกแน่ๆ เพราะเค้าพยายามให้ข้อมูลน้อยที่สุด ซึ้งเราต้องนำมาเรียงมันเอง

และข้อที่ว่าเขียวอยู่ซ้ายขาวเนี้ยต้องนำมาใช้เป็นข้อที่ 4 ไม่งั้นคิดไม่ได้แน่ๆ

ต้องคิดเริ่มจากข้อ 8,9 ก่อน อันไหนก็ได้เพราะมันฟิกที่อยู่ไว้แล้ว
จากนั้นใช้ข้อ 14 จะได้บ้านสีฟ้าอยู่หลังที่2 (เพราะนอเวอยู่หลังแรก ถ้าไม่เขียนใส่กระดาษหรือคิดตามจะงงนะขอบอก)

จากนั้นใช้ข้อที่ 4(ข้อที่มีปัญหานี่แหล่ะ)มาผูกคุณสมบัติกับข้อ5ก่อน จากนั้นเติมเลยจะรู้ว่ามันมีทางเดียวคือ หลังที่4กับหลังที่ 5 เพราะถ้าลงหลังอื่น คุณสมบัติจะชนกัน จะงงมากถ้าอ่านเฉยๆไม่ทำดู 555 เฉลยแค่นี้นะครับ ที่เหลือลองคิดเอง ง่ายๆ แต่มันต้องผูกคุณสมบัติเข้าด้วยกันและเติมข้อที่ขาดถึงจะคิดต่อได้