วันพฤหัสบดีที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2555

สิ่งที่มา...กับปลาดิบ

ปัจจุบัน คนไทยนิยมรับประทานปลาดิบกันมากขึ้น  โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ที่ได้รับอิทธิพลจากอาหารญี่ปุ่นด้วยรสชาดและน่าตาของ อาหารที่ดูสะดุดตาชวนให้น่ารับประทาน  ทำให้แทบจะไม่มีใครปฏิเสธได้ว่าไม่เคยลิ้มลองอาหารจำพวกข้าวปั้น ซูชิซาซิมิที่มีปลาดิบเป็นส่วนประกอบ แต่ท่านทราบหรือไม่ว่าในปลาดิบเป็นส่วนประกอบแต่ทราบหรือไม่ว่าปลาดิบนี้มี พยาธิ...พิษภัยที่หลายคนคาดไม่ถึงดังนั้น   เพื่อให้ผู้อ่านทุกท่านได้มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องดังกล่าวจึงขอนำเสนอ บทความเรื่อง สิ่งที่มากับ...ปลาดิบโดยมีรายละเอียดดังนี้

ปลาดิบ
ปลาดิบที่เรานำมาบริโภคนั้น มี 2ชนิดใหญ่ๆ คือ ปลาดิบน้ำจืด และปลาดิบน้ำเค็ม (ปลาดิบทะเล) ซึ่งปลาดิบทั้ง 2ชนิด มีเชื้อโรคที่แอบแฝงมาแตกต่างกัน ปลาดิบน้ำจืดจะพยาธิบางชนิด เช่นพยาธิตัวจี๊ด พยาธิใบไม้ลำไส้ ฯลฯ สำหรับปลาดิบน้ำเค็มนั้น คนส่วนมากมักคิดว่าไม่มีพยาธิแต่ความจริงแล้ว ปลาน้ำเค็มอาจพบตัวอ่อนของพยาธิ อะนิซาคิส ซิมเพล็ก (Anisakis simplex) ซึ่งปลาดิบน้ำเค็มที่เรานำมาประกอบอาหารนั้นอาจมีการปนเปื้อนของพยาธิชนิดนี้
รู้จักพยาธิอะนิซาคิส ซิมเพล็ก
Anisakis  simplex เป็นพยาธิที่พบในปลาทะเลเขตอบอุ่นและเขตร้อนในประเทศไทยตรวจพบตัวอ่อนของพยาธิชนิดนี้ในปลามากกว่า 20ชนิด เช่น ปลาดาบเงิน ปลาตาหวาน ปลาสีกุน ปลาทูแขก ปลากุเลากล้วย ปลาลัง เป็นต้นส่วนในต่างประเทศจะพบในปลาจำพวก ปลาคอด ปลาแซลมอน ปลาเฮอริ่งระยะตัวอ่อนที่ติดต่อสู่คนจะอยู่อวัยวะภายในช่องท้องของปลาทะเล มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า   ขนาดยาวประมาณ 1-2ซม. กว้างประมาณ 0.3-0.5มม. สีขาวใสมีลายตามขวางบริเวณส่วนปากจะมีหมานขนาดเล็กบริเวณปลายหางจะมัส่วน แหลมยื่นออกมา  พยาธิชนิดนี้จะใช้ปากที่เป็นหนามขนาดเล็กบริเวณหัวในหารไชผ่านเนื้อเยื่อ ต่างๆอีกทั้งยังสามารถคงทนต่อน้ำ เกลือ และแอลกอฮอล์ได้เป็นอย่างดี
อาการผิดปกติ
เนื่องจากพยาธิชนิดนี้ขณะเป็นตัวอ่อนระยะติดต่อสู่คนบริเวณปากของพยาธิจะมี หนามขนาดล็กขณะเคลื่อนที่จะไชในกระเพาะอาหารและลำไส้ของคน  ทำให้เกิดแผลขนาดเล็กและอาจทำให้มีเลือดออกในกระเพาะอาหารได้  ส่งผลให้ผู้ที่มีพยาธิชนิดนี้ในกระเพาะอาหารและลำไส้ มีอาการปวดท้องแน่นท้อง คลื่นไส้ ท้องอืดอาการมักไม่เฉพาะเจาะจงคล้ายกับอาการของโรคกระเพาะบางรายอาจท้องเสีย หรือถ่ายอุจจาระเป็นเลือดถ้ามีแผลในกระเพาะขนาดใหญ่อาการมักจะเริ่มเกิดขึ้น หลังรับประทานอาหารที่มีพยาธิชนิดนี้เป็นชั่วโมงหรืออาจเป็นวันก็ได้   และถ้าหากพยาธิชนิดนี้ฝังตัวอยู่ในทางเดินอาหารนานๆจะทำให้เกิดลักษณะของ ก้อนทูมขึ้นในทางเดินอาหารได้ซึ่งเกิดจากปฏิกิริยาของร่างกายต่อพยาธิ
การวินิจฉัยและการรักษา
การวินิจฉัยโรคอาศัยประวัติการับประทานปลาดิบทะเลร่วมกับอาการผิดปกติที่ กล่าวข้างต้นและยืนยันการวินิจฉัยและการรักษาโดยการส่องกล้องตรวจกระเพาะ อาหารหากพบตัวอ่อนของพยาธิชนิดนี้  แพทย์จะใช้กล้องส่องทางเดินอาหารคีบตัวพยาธิออก  เนื่องจากพยาธิชนิดนี้ไม่สามารถตรวจพบได้ในอุจจาระ มันจะเกาะติดแน่นกับกระเพาะอาหารลำไส้และระยะที่พบในทางเดินอาหารนั้นเป็น ระยะตัวอ่อนซึ่งไม่ออกไข่ปนออกมากับอุจจาระ
ปัจจุบันยังไม่มียาที่ใช้รักษาพยาธิชนิดนี้   แต่จากการศึกษาในประเทศญี่ปุ่นโดยหัวหน้าทีมวิจัย โตะชิโอะ ลิยามา พบว่า วาซาบิมีฤทธิ์ในการฆ่าพยาธิชนิดนี้ได้   แต่รายละเอียด ขนาดและปริมาณการใช้วาซาบิเพื่อฆ่าพยาธิ ยังอยู่ในขั้นตอนของการศึกษา
รับประทานปลาดิบอย่างไรไม่เป็นพยาธิ
ก่อนอื่นต้องแน่ใจว่าปลาดิบที่นำมาทำอาหารนั้นเป็นปลาทะเลเพราะบางครั้งผู้ ที่รู้เท่าไม่ถึงการนำปลาน้ำจืดหลายชนิดมาทำอาหารทำใก้เกิดโรคพยาธิตัว จี๊ด   พยาธิใบไม้ในตับ หรือพยาธิใบไม้ลำไส้ซึ่งมีความรุนแรงเช่นเดียวกับการติดโรคพยาธิอะนิซาคิส ซิมเพล็ก
การแช่แข็งที่อุณหภูมิ -35องศาเซลเซียส อย่างน้อย 12ชั่วโมง หรือตำกว่า -20องศาเซลเซียส อย่างน้อย 7วัน หรือผ่านความร้อนมากว่า 60องศาเซลเซียส อย่างน้อย 5นาที ก่อนการประกอบอาหารจะทำให้พยาธิชนิดนี้ตายได้
นอกจากพยาธิบางชนิดที่พบในปลาดิบแล้วยังพบแบคทีเรียบางชนิด และเชื้อไวรัสตับอักเสบเอในอาหารดิบด้วยทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสุขอนามัยและความ สะอาดของขั้นตอนการเตรียมอาหารดังนั้นถ้าคิดจะรับประทานปลาดิบ ควรดูให้แน่ใจว่าขั้นตอนการประกอบอาหารสะอาดถูกอนามัยหรือไม่เพื่อให้เกิด ความมั่นใจและเพื่อหลีกเลี่ยงการติดเชื้อหลายชนิดจากปลาดิบ
ขอบคุณข้อมูลจากจุลสารก๊าซไลน์
โดย พญ.พัชรพร เตชะสินธุ์ธนา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น